นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง เผยว่า เพื่อส่งเสริมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ทดแทนการจับจากธรรมชาติ ปลากะพงทองถือเป็นปลาทะเลที่ตลาดมีความต้องการอย่างมาก เนื่องจากเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย ฮ่องกง และจีน มีออเดอร์สั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบันยังไม่มีการเพาะเลี้ยงปลากะพงทองในเชิงพาณิชย์ ส่วนใหญ่ ที่นำมาบริโภคได้มาจากการจับจากธรรมชาติ ราคาจำหน่ายค่อนข้างสูง โดยปลากะพงทองขนาด 800-1,000 กรัม ราคาอยู่ที่ กก.ละ 180-220 บาท กรมประมงจึงสนับสนุน ให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต 5 (ภูเก็ต) หน่วยงานในสังกัด เร่งทำการศึกษา วิจัย การเพาะพันธุ์ปลากะพงทองเพื่อรองรับความต้องการของตลาดและผู้บริโภค พร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรได้นำลูกพันธุ์ไปเลี้ยงเพื่อสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงในอนาคต
นางพิชญา ชัยนาค ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต 5 (ภูเก็ต) เผยว่า ปลากะพงทอง หรือ “อังเกย” เป็นปลาทะเลที่พบได้ในทะเลฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต กระบี่ และ พังงา ลักษณะลำตัวมีสีเหลืองทอง มีจุดสีดำใหญ่ๆ บริเวณลำตัวค่อนมาทางครีบหาง ปากมีเขี้ยวและฟันแหลมคม เนื้อแน่น รสชาติดี มีกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 สูง นำมาประกอบอาหารได้หลายเมนู ทั้งนึ่งซีอิ๊ว ต้มยำ แกงส้ม ทอดกระเทียม ลวกจิ้ม และซาชิมิ
ปัจจุบันศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต 5 (ภูเก็ต) สามารถเพาะพันธุ์ปลากะพงทองได้สำเร็จ โดยใช้วิธีการฉีดฮอร์โมน Suprefact ร่วมกับ Motilium ทั้งในพ่อและแม่พันธุ์ปลาที่จับจากธรรมชาติเพื่อกระตุ้นการสืบพันธุ์ แล้วปล่อยให้ปลาผสมพันธุ์กันเองตามธรรมชาติ โดยเมื่อเดือน พ.ค.63 ที่ผ่านมา แม่ปลาได้วางไข่และไข่ฟักออกเป็นตัวอัตราฟักร้อยละ 85 มีการเจริญเติบโตที่ดีลูกพันธุ์ปลากะพงทองขนาด 3 ซม. หรือ 1.2 นิ้ว เป็นขนาดที่เหมาะสมต่อการนำไปเลี้ยงในกระชัง โดยมีการจำหน่ายให้แก่เกษตรกรตัวละ 2 บาท (ขนาด 1 ซม.) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-7662-1822.
อ่านเพิ่มเติม...
August 18, 2020 at 07:30AM
https://ift.tt/3132N29
ประมงภูเก็ตปั้น "อังเกย" ป้อนตลาดซีฟู้ดทั่วโลก - ไทยรัฐ
https://ift.tt/3f2b4rv
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ประมงภูเก็ตปั้น "อังเกย" ป้อนตลาดซีฟู้ดทั่วโลก - ไทยรัฐ"
Post a Comment